ภาษาแต้จิ๋ว (潮州話, เตี่ยจิวอ่วย) เป็นหนึ่งในตระกูลภาษาจีน หมิ่น-หนาน จัดเป็นหนึ่งในตระกูลภาษาของฮกเกี้ยน และ เป็นหนึ่งในภาษาที่พูดกันในภูมิภาคของจีน คำว่าแต้จิ๋วในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Teochew (Diojiu, Teochiu, Tiuchiu, Teochew เขียนสะกดได้หลายแบบ) หรือ Chaozhou (เฉาโจว อ่านตามภาษาจีนกลาง)
ภาษาแต้จิ๋วรักษาการออกเสียงและคำศัพท์ภาษาจีนเก่า หลายคำที่สูญหายไปจากวิธภาษาจีน สมัยใหม่บางภาษา ทำให้ภาษานี้ได้รับการอธิบายเป็นหนึ่งในภาษากลุ่มจีนที่ยังคงเดิมมากที่สุด[ 7]
ชื่อเรียก
ภาษาแต้จิ๋วมีชื่อเรียกในประเทศจีนแตกต่างกันหลายอย่าง ชาวแต้จิ๋วเองเรียกชื่อภาษาตัวเองว่า เตี่ยจิวอ่วย ส่วนในภาษาจีนกลางจะออกเสียงว่า เฉาซ่านฮว่า ต่อมาเมื่อเมืองซัวเถา เจริญรุ่งเรื่องขึ้นเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเมืองแทนเมืองแต้จิ๋ว คนต่างถิ่นจึงนิยมเรียกภาษานี้ว่า ซ่านโถวฮว่า หรือ ซัวเถาอ่วย ในภาษาแต้จิ๋ว หมายถึงภาษาพูดถิ่นซัวเถา ต่อมานิยมเรียกว่า เฉาซ่านฮว่า (เตี่ยซัวอ่วย) หมายถึง ภาษาพูดถิ่นแต้จิ๋ว-ซัวเถา เพื่อให้ครอบคลุมท้องถิ่นที่พูดภาษานี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในแวดวงวิชาภาษาศาสตร์และภาษาถิ่นจีนนิยมเรียกว่า เฉาซ่านฟางเอี๋ยน (เตี่ยซัวฮวงงั้ง) หมายถึงภาษาถิ่นแต้จิ๋ว อีกชื่อหนึ่งที่นิยมใช้เป็นภาษาหนังสือเรียกภาษาถิ่นนี้คือ เฉาอี่ว์ (เตี่ยงื่อ) หมายถึงภาษาของจีนแต้จิ๋วหรือภาษาแต้จิ๋วนั่นเอง
มีอีกชื่อหนึ่งที่ชาวจีนแคะ ใช้เรียกภาษานี้จนเป็นที่รู้จักคือภาษาฮกล่อ (ภาษาแคะว่า ฮกล่อฝ่า ) เนื่องจากคำว่าฮกล่อเป็นชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ภาษาหมิ่นใต้ที่แพร่หลายอีกชื่อหนึ่ง[ 8]
ประวัติและท้องถิ่นที่พูด
ภาษาแต้จิ๋วในปัจจุบัน เป็นภาษาที่พัฒนามาจากภาษาจีนโบราณของตระกูลหมิ่นหนาน เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 9–15 มีกลุ่มชาว หมิ่น (หมิ่น) ได้อพยพลงใต้จากมณฑลฝูเจี้ยน (หรือฮกเกี้ยน) มาที่ทางตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง ในเขตที่เรียกว่า เตี่ยซัว การอพยพดังกล่าวมีสาเหตุมาจากประชากรที่มากขึ้นในมณฑลฝูเจี้ยน
เนื่องจากภูมิประเทศใหม่ที่ค่อนข้างตัดขาดจากมณฑลฮกเกี้ยนเดิม ภาษาแต้จิ๋วจึงได้กลายมาเป็นภาษาเอกเทศในภายหลัง ภาษาแต้จิ๋วนั้นจะพูดในเขตที่เรียกรวมกันว่า "เตี่ยซัว" ซึ่งมีเมืองแต้จิ๋ว (หรือเฉาโจวในภาษาจีนกลาง) และซัวเถา (หรือ ซั่นโถว ในภาษาจีนกลาง) เป็นหลัก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "เตี่ยซัว" ดังกล่าว นอกจากนั้น ยังพูดกันในเมืองกิ๊กเอี๊ย เตี่ยเอี๊ย โผวเล้ง เตี่ยอัง เหยี่ยวเพ้ง หุ่ยไล้ และ เถ่งไฮ่
เขตเตี่ยซัวเคยเป็นเขตหนึ่งที่มีคนจีนอพยพออกนอกประเทศเป็นอันมากไปยังเอเชียอาคเนย์ในคริสต์ศตวรรษที่ 18–20 ซึ่งทำให้ภาษาแต้จิ๋วเป็นภาษาหลักหนึ่งในภาษาที่พูดกันมากในกลุ่ม ชาวจีนอพยพ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฮ่องกง และยังมีในทวีปยุโรป และ ทวีปอเมริกา ที่มีชาวจีนแต้จิ๋วอพยพไป
อย่างไรก็ตาม ในยุคโลกาภิวัตน์นั้นภาษาแต้จิ๋วได้ลดความนิยมลงไปมากในหมู่ชาวแต้จิ๋ว เช่น ในสิงคโปร์ เยาวชนที่เดิมพูดแต้จิ๋วได้เปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษ มากขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมส่วนใหญ่และอิทธิพลของสื่อสารมวลชน
สัทศาสตร์
อักษรละตินตัวเอนหมายถึงอักษรที่นิยมใช้ทับศัพท์แทนเสียง อักษรไทยในวงเล็บคือเสียงอักษรที่ใกล้เคียง
เสียงพยัญชนะ
เสียงสระและพยัญชนะสะกด
เสียงสระอาจเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวก็ได้ แต่สำหรับเสียงสระ+สะกดกักแสดงด้วยเสียงสั้นเท่านั้น คล้ายวิธีอ่านสระเสียงสั้นในภาษาไทย สระขึ้นจมูกมิได้หมายความว่าสะกดด้วย น แต่เวลาออกเสียงสระให้ปล่อยลมทางจมูกด้วย
เสียงสระของภาษาแต้จิ๋ว [ 9]
กลุ่มสระ
อ้าปาก
แย้มฟัน
ห่อปาก
สระพื้นฐาน
[i] i (อี)
[u] u (อู)
[a] a (อา)
[ia] ia (เอีย)
[ua] ua (อัว)
[o] o (โอ)
[io] io (อี-โอ)
[e] ê (เอ)
[ie] iê (อี-เอ)
[ue] uê (อู-เอ)
[ɯ] e (อือ)
[ai] ai (อาย)
[uai] uai (อวย)
[oi] oi (โอย)
[ui] ui (อูย)
[ao] ao (อาว)
[ou] ou (โอว)
[iou] iou (เอียว)
[iu] iu (อีว)
สระขึ้นจมูก
[ĩ] in (อีน̃)
[ã] an (อาน̃)
[ĩã] ian (เอียน̃)
[ũã] uan (อวน̃)
[ĩõ] ion (อี-โอน̃)
[ẽ] ên (เอน̃)
【[ĩẽ] iên (อี-เอน̃) 】
[ũẽ] uên (อู-เอน̃)
[ɯ̃] en (อืน̃)
[ãĩ] ain (อายน̃)
[ũãĩ] uain (อวยน̃)
[õĩ] oin (โอยน̃)
[ũĩ] uin (อูยน̃)
[ãõ] aon (อาวน̃)
[õũ] oun (โอวน̃)
[ĩũ] iun (อีวน̃)
สระ+สะกดนาสิก
[im] im (อีม)
[am] am (อาม)
[iam] iam (เอียม)
[uam] uam (อวม)
[iŋ] ing (อีง)
[uŋ] ung (อูง)
[aŋ] ang (อาง)
[iaŋ] iang (เอียง)
[uaŋ] uang (อวง)
[oŋ] ong (โอง)
[ioŋ] iong (อี-โอง)
[eŋ] êng (เอง)
[ieŋ] iêng (อี-เอง)
[ueŋ] uêng (อู-เอง)
【[ɯŋ] eng (อืง) 】
สระ+สะกดกัก
[iʔ] ih (อิ)
[aʔ] ah (อะ)
[iaʔ] iah (เอียะ)
[uaʔ] uah (อัวะ)
[oʔ] oh (โอะ)
[ioʔ] ioh (อิ-โอะ)
[eʔ] êh (เอะ)
【[ueʔ] uêh (อุ-เอะ) 】
[oiʔ] oih (โอะ-อิ)
[aoʔ] aoh (อะ-โอะ)
[ip̚] ib (อิบ)
[ap̚] ab (อับ)
[iap̚] iab (เอียบ)
[uap̚] uab (อ็วบ)
[ik̚] ig (อิก)
[uk̚] ug (อุก)
[ak̚] ag (อัก)
[iak̚] iag (เอียก)
[uak̚] uag (อ็วก)
[ok̚] og (อก)
[iok̚] iog (อิ-อก)
[ek̚] êg (เอ็ก)
[iek̚] iêg (อิ-เอ็ก)
[uek̚] uêg (อุ-เอ็ก)
[ɯek̚] eg (อึก)
สระเสริม
[m] m (มฺ)
[ŋ] ng (งฺ)
[ŋʔ] ngh (งฺอ์)
เสียงวรรณยุกต์
เสียงวรรณยุกต์มีสองกลุ่มคือ อิม (陰 หรือหยิน) กับ เอี๊ยง (陽 หรือหยาง) กลุ่มละสี่เสียง รวมแปดเสียง เสียงสระ+สะกดกักจะมีเสียงวรรณยุกต์ 4 หรือ 8 เท่านั้น
เสียงวรรณยุกต์ของภาษาแต้จิ๋ว
วรรณยุกต์
1
2
3
4
5
6
7
8
ชื่อ
อิมเพ้ง (陰平)
อิมเจี่ยน (陰上)
อิมขื่อ (陰去)
อิมยิบ (陰入)
เอี๊ยงเพ้ง (陽平)
เอี๊ยงเจี่ยน (陽上)
เอี๊ยงขื่อ (陽去)
เอี๊ยงยิบ (陽入)
ระดับเสียง
˧˧ 33
˥˨ 52
˨˩˧ 213
˨ʔ 2
˥˥ 55
˧˥ 35
˩˩ 11
˦ʔ 4
ลักษณะ
กลางราบ
สูงตก
ต่ำยก
ต่ำหยุด
สูงราบ
สูงยก
ต่ำราบ
สูงหยุด
ตัวอย่าง
分
粉
訓
忽
雲
混
份
佛
คำอ่าน
hung1 (ฮูง)
hung2 (หู้ง/ฮู่ง)
hung3 (หู่ง-ปลายยก)
hug4 (หุก)
hung5 (ฮู้ง)
hung6 (หูง)
hung7 (หู่ง/หูง)
hug8 (ฮุก)
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
↑ เชื่อกันว่าภาษาหมิ่นแยกจากภาษาจีนเก่ามากกว่าภาษาจีนสมัยกลางอย่างวิธภาษาจีนอื่น ๆ[ 3] [ 4] [ 5]
อ้างอิง
↑ "學潮語,埋下愛的種子" . Sin Chew. 2021-01-09. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-03-19. สืบค้นเมื่อ 2024-04-18 .
↑ Language atlas of China (2nd edition) , City University of Hong Kong , 2012, ISBN 978-7-10-007054-6 .
↑ Mei, Tsu-lin (1970), "Tones and prosody in Middle Chinese and the origin of the rising tone", Harvard Journal of Asiatic Studies , 30 : 86–110, doi :10.2307/2718766 , JSTOR 2718766
↑ Pulleyblank, Edwin G. (1984), Middle Chinese: A study in Historical Phonology , Vancouver: University of British Columbia Press, p. 3, ISBN 978-0-7748-0192-8
↑ Hammarström, Harald ; Forkel, Robert; Haspelmath, Martin ; Bank, Sebastian (2023-07-10). "Glottolog 4.8 - Min" . Glottolog . Leipzig : Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology . doi :10.5281/zenodo.7398962 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-13. สืบค้นเมื่อ 2023-10-13 .
↑ "Change Request Documentation: 2021-045" . 31 August 2021. สืบค้นเมื่อ 30 May 2022 .
↑ Yap, Foong Ha; Grunow-Hårsta, Karen; Wrona, Janick, บ.ก. (2011). Nominalization in Asian Languages: Diachronic and typological perspectives . John Benjamins Publishing Company . p. 11. ISBN 978-9027206770 .
↑ ถาวร สิกขโกศล. ภาษาแต้จิ๋ว (๑). ในศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 30 ฉบับที่ 12 ตุลาคม 2552 กรุงเทพ:สำนักพิมพ์มติชน,2552. หน้า 141
↑ Dylan W.H. Sung (28 มกราคม พ.ศ. 2546). "Min - Chaozhou Dialect" (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2010-01-11. สืบค้นเมื่อ 2010-05-29 . ; ;
ภาษาจีน ถิ่นต่าง ๆ อักษรจีน และ ภาษาอื่น ๆ ที่พูดในประเทศจีน
ภาษาจีน ทางการภาษาหลัก ภาษาย่อยในภาษาหมิ่น ภาษาย่อยในภาษาหมิ่นใต้ อักษรจีน ภาษาอื่น ๆ ที่พูดในจีน รับอิทธิพลจากภาษาจีน