กองทัพสาธารณรัฐจีน |
---|
中華民國國軍 |
ตราประจำกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐจีน |
ก่อตั้ง | 16 มิถุนายน ค.ศ. 1924 |
---|
รูปแบบปัจจุบัน | 25 ธันวาคม ค.ศ. 1947 |
---|
เหล่า | กองทัพบกสาธารณรัฐจีน เหล่านาวิกโยธินสาธารณรัฐจีน กองทัพเรือสาธารณรัฐจีน กองทัพอากาศสาธารณรัฐจีน กองทหารสารวัตร กองบัญชาการส่งกำลังบำรุงร่วม
|
---|
กองบัญชาการ | ไทเป, สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) |
---|
ผู้บังคับบัญชา |
---|
ผู้บัญชาการทหาร | ประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ |
---|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | พลเอก เยียน เต๋อ-ฟา |
---|
เสนาธิการ | พลเรือเอก หวง ชู-กวง |
---|
กำลังพล |
---|
อายุเริ่มบรรจุ | 19 - 40 ปี |
---|
การเกณฑ์ | ราชการทหารภาคบังคับ 1 ปี สำหรับพลเมืองชายอายุระหว่าง 19 ถึง 40 ปี |
---|
ประชากร วัยบรรจุ | 5,883,828, อายุ 18-40 (2548) |
---|
ประชากร ฉกรรจ์ | 4,749,537, อายุ 18-40 (2548) |
---|
ประชากรวัยถึงขั้น ประจำการทุกปี | 174,173 (2548) |
---|
ยอดประจำการ | 300,000 (2024)[1] |
---|
ยอดสำรอง | 2,310,000 (2024) |
---|
รายจ่าย |
---|
งบประมาณ | $10,500 ล้าน (2551) (อันดับที่ 20) |
---|
ร้อยละต่อจีดีพี | 2.5 (2551) |
---|
อุตสาหกรรม |
---|
แหล่งผลิตในประเทศ | Aerospace Industrial Development Corporation, Chungshan Institute of Science and Technology, CSBC Corporation, 205th Armory |
---|
แหล่งผลิตนอกประเทศ | สหรัฐ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์[3] อิสราเอล แอฟริกาใต้ สเปน เยอรมนี อิตาลี เกาหลีใต้ |
---|
บทความที่เกี่ยวข้อง |
---|
ประวัติ | กองทัพเป่ย์หยาง กองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีน |
---|
ยศ | ยศทหาร เครื่องอิสริยาภรณ์ |
---|
กองทัพสาธารณรัฐจีน ประกอบด้วยกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ (รวมเหล่านาวิกโยธิน, กำลังทหารสารวัตรและกองทัพกำลังสำรองแห่งสาธารณรัฐจีน) เป็นสถาบันทหาร มีงบประมาณคิดเป็น 16.8% ของงบประมาณกลางในปีงบประมาณ 2546 เดิมเป็นกองทัพปฏิวัติแห่งชาติก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพสาธารณรัฐจีนในปี 2490 เนื่องจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ
ก่อนคริสต์ทศวรรษ 1970 ภารกิจหลักของกองทัพ คือ การยึดจีนแผ่นดินใหญ่คืนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เป็นคอมมิวนิสต์ผ่านโครงการความรุ่งโรจน์ของชาติ (Project National Glory)[4] แต่ภารกิจสำคัญที่สุดของกองทัพปัจจุบัน คือ การป้องกันเกาะไต้หวัน เผิงหู จินเหมินและหมาจู่จากการบุกครองทางทหารที่เป็นไปได้ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่เด่นสุดของสาธารณรัฐจีน[5][6] ขณะที่ข้อพิพาทว่าด้วยสถานะทางการเมืองของไต้หวันยังดำเนินต่อไป
ประวัติ
ในอดีตเมื่อตั้งสาธารณรัฐจีนกองทัพนั้นค่อนข้างแตกกระจายมีขุนศึกมากมายและรัฐบาลสาธารณรัฐจีนควบคุมโดยรัฐบาลเป่ยหยางในปักกิ่งและมีสงครามระหว่างขุนศึกตลอดเวลาประธานาธิบดีเปลี่ยนแปลงบ่อยมีความขัดแย้งในกองทัพหลังหยวนซื่อไข่ตาย ประเทศจีนแบ่งเป็นแคว้นเป็นก๊ก ไม่ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเมื่อ ซุนยัดเซนและเจียงไคเชคเมื่อเห็นว่าตราบใดที่ยังไม่มีกองทัพของพรรคก๊กมินตั๋งเองจีงไม่อาจทำให้จีนรวมกันได้ ในตอนนั้น รัฐบาลรัสเซียนำโดยเลนินยอมรับพรรคก๊กมินตั๋งเป็นผู้ปกครองจีนโดยชอบธรรม เลนินเสนอให้อาวุธและการฝึกการเงินให้และความช่วยเหลือแต่ต้องแลกมาซึ่งให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนร่วม รัฐบาลกับพรรคก๊กมินตั๋งโรงเรียนทหารและการปกครองหวางผู่ ซึ่งนับเป็นผลิตผลแรกของความร่วมมือระหว่างซุนยัตเซ็นกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน
โรงเรียนทหารและการปกครองที่จัดตั้งขึ้น มีซุนยัตเซ็นเป็นผู้อำนวยการ และเจี่ยงจงเจิ้ง (蔣中正) หรือเจียงไคเช็ค เป็นครูใหญ่ ดร.ซุนได้วางจุดประสงค์ไว้ที่การ “สร้างกองกำลังปฏิวัติ เพื่อช่วยจีนให้พ้นวิกฤต” มีการจัดสอนการใช้อาวุธ สอนแนวความคิดลัทธิไตรราษฎร์ และแนวความคิดของลัทธิมาร์กซ์ โดยให้ความสำคัญทั้งหลักสูตรทางด้านการทหารและการปกครอง จนสามารถสร้างบุคลากรชั้นนำในประเทศในภายหลังได้เป็นจำนวนมาก โดยระหว่างปีค.ศ. 1924-1949 มีนักเรียนที่จบทั้งสิ้น 23 รุ่น เมื่อรวมนักเรียนที่จบออกมาจากโรงเรียน และสาขาแล้วมีมากถึง 230,000 คน
การจัดระเบียบเหล่าทัพ
กองกำลังของสาธารณรัฐจีนถูกจัดระเบียบดังนี้ดังนี้
- กองทัพบกสาธารณรัฐจีน (ROCA, Republic of China Army)
- กองทัพอากาศสาธารณรัฐจีน ( ROCAF , Republic of China Air Force)
- กองทัพเรือสาธารณรัฐจีน (ROCN, Republic of China Navy)
- กองทหารสารวัตรสาธารณรัฐจีน (ROCMP, Republic of China Military Police)
- กองบัญชาการส่งกำลังบำรุงร่วม (Republic of China Joint Logistics Command)
- กองกำลังสำรองสาธารณรัฐจีน (Republic of China Armed Forces Reserve Command)
โครงสร้าง
บุคลากร
งบประมาณ
การศึกษา
ยุทธภัณฑ์
อาวุธประจำกาย
อาวุธประจำหน่วย
ศาลทหาร
ความสัมพันธ์ทางทหาร
ดูเพิ่ม
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
เชิงอรรถ
อ้างอิง
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น