มิเชลล์ ราดรีเกซ
เมย์เท มิเชลล์ ราดรีเกซ (สเปน: Mayte Michelle Rodríguez; เกิดเมื่อ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1978) เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน เธอเริ่มต้นอาชีพในปี ค.ศ. 2000 โดยแสดงเป็นนักมวยผู้มีปัญหา ในภาพยนตร์ตลก/ดราม่า/กีฬาเรื่อง เกิร์ลไฟต์ ซึ่งเธอได้รับรางวัลอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์ และกอแทมอะวอดส์ สาขา Best Debut Performance[1][2] ราดรีเกซรับบท เล็ตตี ออร์ติซ ในภาพยนตร์ชุด เร็ว..แรงทะลุนรก และรับบท เรน โอคัมโป ในภาพยนตร์ชุด เรซิเดนต์อีวิล เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์ระทึกขวัญอาชญากรรมเรื่อง ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก (2003) และต่อมาได้แสดงในภาพยนตร์มหากาพย์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ของเจมส์ แคเมรอน เรื่อง อวตาร (2009) และในภาพยนตร์โลดโผนเรื่อง วันยึดโลก (2011) ราดรีเกซยังมีงานทางซีรีส์ทางรายการโทรทัศน์ที่เล่นเป็นแอนนา โลนิการ์ คอร์เทซ ในซีชั่น 2 ของหนังซีรีส์เรื่อง อสุรกายดงดิบ เธอเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงซึ่งมีการแยกเป็นหลายชุดก่อนที่ซีรีส์จะจบลง เธอยังมีการทำงานเกี่ยวกับเสียงมากมาย ในวิดีโอเกม เช่น เกม คอลล์ออฟดิวตี และเกม Halo, และภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติ เรื่อง เทอร์โบ หอยทากจอมซิ่งสายฟ้า และซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง IGPX[3] ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้มากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2013 ความบันเทิงรายสัปดาห์ ได้มีบทความเกี่ยวกับราดรีเกซ ว่าเป็น "นักแสดงหญิงที่โดดเด่นที่สุดในฐานะนักแสดงหญิงประเภทแนวโลดโผนที่เป็นชาวละตินที่เห็นได้ชัดเจนในฮอลลีวูด".[4] ชีวิตในวัยเด็กเมย์เท มิเชลล์ ราดรีเกซ[5] เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1978[6] ที่แซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส แม่ของเธอ คาเมน มิลาดี ราดรีเกซ เป็นคนพื้นเมืองของโดมินิกัน และพ่อของเธอ ราฟาเอล ราดรีเกซ เป็นชาวปวยร์โตรีโก รับราชการในกองทัพสหรัฐ[7][8][9] ราดรีเกซได้ย้ายตามแม่ของเธอไปอยู่ที่สาธารณรัฐโดมินิกันเมื่อเธออายุได้ 8 ขวบและอาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งอายุ 11 ปี หลังจากนั้นเธอย้ายไปอยู่ที่เครือรัฐปวยร์โตรีโกจนอายุได้ 17 ปี และสุดท้ายเธอตั้งรกรากที่เจอร์ซีย์ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ เธอหยุดเรียนไปตอนมัธยมปลายแต่ก็มาเรียน GED ต่อ[10] เธอถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาแล้ว 5 ครั้ง[11] เธอเข้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดที่โรงเรียนทางธุรกิจก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนสายอาชีพทางการแสดง โดยเธอนั้นมีความฝันสูงสุดที่จะเป็นนักเขียนบทและผู้อำนวยการสร้าง[12] ในช่วงเวลาหนึ่งเธอถูกเลี้ยงโดยคุณยายและถูกนำขึ้นเป็นพยานพระยะโฮวา ตามศาสนาแม่ของเธอ แม้ว่าเธอจะเริ่มละทิ้งศรัทธา[13][14] การทดสอบดีเอ็นเอของราดรีเกซจัดทำขึ้นตามโปรแกรมของรายการโทรทัศน์ Finding Your Roots ว่าบรรพบุรุษของเป็นชาวยุโรป 72.4%, ชาวแอฟริกัน 21.3% และเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน 6.3%[15] ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบางส่วนขัดแย้งกันทางเชื้อชาติกับครอบครัวของเธอ ตั้งแต่พ่อของเธอเป็นปวยร์โตรีโกผิวขาวและแม่ของเธอซึ่งเป็นโดมินิกันซึ่งเป็นผิวสี อาชีพภาพยนตร์และโทรทัศน์มีการเปิดทดสอบหน้ากล้องหรือเรียกว่าคัดเลือกดาราหน้าใหม่ซึ่งเป็นการออดิชันครั้งแรกของเธอ ราดรีเกซชนะผู้ที่เข้าสมัคร 350 คนในภาพยนตร์อิสระทุนต่ำ เรื่อง เกิร์ลไฟท์ ด้วยการรับบทเป็น ไดน่า ก็อตแมน ซึ่งเป็นบทวัยรุ่นที่ก้าวร้าวแล้วได้รับการฝึกฝนเพื่อจะเป็นนักมวย[16] ราดรีเกซได้รับรางวัลหลายรางวัลและถูกเสนอชื่อในฐานะนักแสดงอิสระ รวมทั้งได้รับรางวัลนักแสดงหลักจากงาน National Board of Review และ Deauville Film Festival,[17] และก็ยังมีอีกหลายรางวัล เช่น อินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์,[2] กอแทมอะวอดส์,[1] Las Vegas Film Critics Sierra Awards, และอีกหลายที่ได้รับ ตัวภาพยนตร์เองก็ได้รับรางวัลสูงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์[18] และชนะเลิศรางวัลเยาวชนที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองกาน ในปี 1999, เธอได้รับคัดเลือกในบทบาทที่เป็น Sisqó's ในมิวสิกวิดีโอ ชื่อว่า "Thong Song. ในปี 2002, เธอปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลงที่มีชื่อว่า "Always On Time" ราดรีเกซมีบทบาทที่โดดเด่นในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงบทบาทของเธอที่เป็นแล็ตตี โอติซ ในภาพยนตร์เรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก (2001) และแสดงเป็น เรน โอคัมโป ในภาพยนตร์เรื่อง ผีชีวะ (2002) เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง คลื่นยักษ์รักร้อน และ ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก[19] ใน ค.ศ. 2004 ราดรีเกซได้พากษ์เสียงเป็นตัวละคร มารีน ในวิดีโอเกม เฮโล 2 [20] เธอยังมีการให้เสียงของอลิซ ริคาร์โรว์ (Liz Ricarro) ในซีรีส์การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ของ IGPX.[3] จาก ค.ศ. 2005 ถึง 2006 เธอแสดงเป็นตำรวจ แอนนา โลนิการ์ คอร์เทซ[21] ในละครชุดทางโทรทัศน์เรื่อง อสุรกายดงดิบ เธอปรากฏตัวในฤดูกาลที่ 2 (ตัวละครที่ปรากฏตัวในครั้งแรกเป็นเรื่องย้อนหลังในช่วงจบฤดูกาลแรกชื่อว่า "Exodus: Part 1") และมาปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะนักแสดงรับเชิญในซีชั่นที่ 5 "The Lie" ใน ค.ศ. 2009 เธอกลับมาอีกครั้งในตอนสุดท้ายของละครชุด ชื่อ "What They Died For" ในปี ค.ศ. 2010 เมื่อปี ค.ศ. 2006 ราดรีเกซที่ตอนสำคัญที่เป็นตอนของตัวเธอเองใน G4's แสดงเป็น Icons.[22] ในปี 2008 ราดรีเกซปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง ซึแอตเติล ปิดเมืองเดือดระอุ[23] ใน ค.ศ. 2009 เธอแสดงในหนังเรื่อง เร็วแรงทะลุนรก 4 ซึ่งเป็นภาคที่ 4 ของภาพยนตร์ชุด เดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส[24][25] หลังจากนั้นอีกปี ราดรีเกซได้แสดงในภาพยนตร์ทุนสร้างสูงแนวบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ของเจมส์ แคเมรอนเรื่องอวตาร ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ และก็เป็นหนังที่ราดรีเกซก็ประสบความสำเร็จ เธอให้ความสนใจกับการกับมาในภาพยนตร์เรื่องที่ 2[26][27] ใน ค.ศ. 2009 ราดรีเกซได้ร่วมแสดงในหนังของโดมินิกันที่ชื่อว่า Trópico de Sangre ซึ่งเป็นหนังอิสระที่สร้างโดยมิราเบล น้องสาวของเธอ[28][29] เมื่อ ค.ศ. 2010 ราดรีเกซได้ปรากฏตัวในของโรเบิร์ต รอดรีเกซเรื่อง ระห่ำ กระฉูด ซึ่งภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกและทำเงินไป 44 ล้านเหรียญในบ๊อกออฟฟิต[30] ในปี 2011 ประกบคู่คับ อารอน เอคฮาร์ท ในภาพยนตร์แนวบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ เรื่อง วันยึดโลก ซึ่งทำรายได้มากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบ็อกซ์ออฟฟิศ ใน ค.ศ. 2012 เธอกลับไปเล่นหนังในบทของร่างโคลนที่เป็นทั้งตัวดีและตัวร้ายในบทของ เรน โอแคมโบ ในหนังเรื่อง ผีชีวะ 5 ตอนสงครามไวรัสล้างนรก ใน ค.ศ. 2013 เธอรับบทบาทเป็น เล็ตตี โอติซ ในเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก 6 ในปีเดียวกันราดรีเกซมาแสดงในภาพยนตร์ของโรเบิร์ต ราดรีเกซเรื่อง คนระห่ำ ดุกระฉูด การรับบทบาทหลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ เกิร์ลไฟท์ ราดรีเกซได้แสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องและมีคาแรคเตอร์แนวทอมบอยที่ทำงานในสถานีตำรวจหรือทำงานในหน่วยงานของกองทัพ ราดรีเกซกล่าวว่าไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับบทบาทอย่างไร แต่เธอจะรับผิดชอบกับบทบาทที่ได้รับอย่างดีที่สุด[31] "โอ้ไม่นะ, ฉันรู้สึกว่าเพิ่งได้รับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง เกิร์ลไฟท์ เมื่อปีที่ผ่านมา คุณจะยอมให้ตัวเองได้รับบท ถ้าฉันตัดสินใจฉันไม่ต้องการที่จะได้รับบทในวันพรุ่งนี้ ฉันจะต้องเล่นหนังอินดี้ที่ได้รับบทสาวยากจนที่ต้องมีประสบการณ์ที่ทนทุกข์ทรมารและต้องการที่จะเอาชนะผ่านมันมาให้ได้จากการร้องไห้หรือถูกข่มขืน แต่ช่วงท้ายๆ ของวันฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แสดง ฉันเพียงต้องการใครบางคนฉันเชื่อในสิ่งนั้นฉันอยากให้ทุกคนสนใจหรือสนุกไปกับมัน ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อให้ความบันเทิงกับผู้ชมและช่วยให้ผู้หญิงนั้นแข็งแกร่งขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ฉันบอกกับตัวเองและฉันก็มีกล่องของตัวเองและจะพูดว่าเมื่อมีสิ่งต่างๆที่จะใส่ในจานของฉัน ฉันก็จะพูดว่าไม่ และในที่สุดฉันก็จะเหมือนลูกไก่ที่แข็งแรงที่จะถูกฆ่าและมันก็ไม่ผิดปกติอะไร" คนเขียนบทในระหว่าที่กำลังมีทัวร์เพื่อโปรโมตหนังเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก 6 ราดรีเกซเริ่มได้รับร่วมธุรกิจกับฮอลลีวูดที่จะผันตัวเป็นคนเขียนบาท เธอมีงานเขียนบทอยู่สองเรื่องที่กำลังพัฒนาอยู่และมีแผนที่จะหยุดพักงานแสดงเพื่อจะติดตามผลงานเขียนของเธอ หนึ่งในแนวความคิดอยู่บนพื้นฐานเป็นหนังครอบครัวเธอได้ให้คำอธิบายว่า "เรื่องราว 2012 ที่เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ เกี่ยวกับสัตว์และเกี่ยวกับเด็ก",[32] และมีจุดอื่นๆ ที่กับลังปรับปรุงแก้ไขในการที่เอามาทำใหม่เป็นหนังโจรเยอรมันปี 1997 ที่เธอให้คำอธิบายเกี่ยวกับหนังไว้ว่า "เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ 4 สาวที่หนีออกมาจากคุกและกำลังถูกตามล่าตัวทั่วประเทศโดยเอฟบีไอ"[33] นักจัดรายการราดรีเกซได้ผันตัวเข้ามาทำงานเป็นนักจัดรายการ ปี 2009 - เป็นไนท์คลับที่เป็นนานาชาติและเป็นดีเจในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ที่ช่วงท้ายมีงานปาร์ตี้[34] ราดรีเกซระบุว่ามีการมิกเพลงที่เป็นแนวเฮาส์มิวสิก และมีการบันทึก เธอพูดไว้ว่า "ส่วนใหญ่ฉันชอบเล่นในที่ที่มีคนมากที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่เพื่อฉันจะย้อนกลับไปในยุค 1930s ไปถึงปี 1960s, 1970 และ1980s – เอามาไว้ในบ้าน มีแนวฮิปฮอปแล้วก็อาร์แอนด์บี ฉันชอบที่จะผสมผสานเสียงดนตรีอีเล็กทรอนิค" การจัดอันดับอันน่าทึ่งหลายต่อหลายครั้งในช่วงอาชีพของเธอ เธอได้รับการจัดอันดับในนิตยสาร Stuff ว่าเป็น "เป็น 1 ในผู้หญิง 102 คนที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดในโลก" หนังสือ Maxim" "เป็นผู้หญิงที่ติดหนึ่งใน 100 ของผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุด" และติดอันดับที่ 74 ของนิตยสาร เอฟเอชเอ็ม "ผู้หญิง 100 อันดับแรกที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2009"[ต้องการอ้างอิง] ชีวิตส่วนตัวความสัมพันธ์ในช่วงต้นปี 2000 ราดรีเกซได้ยุติการหมั้นกับแฟนหนุ่มที่เป็นชาวมุสลิม โดยเหตุผลหรือข้ออ้างมาจากความแตกต่างทางศาสนาของฝ่ายชายที่เขาขอร้องจากเธอ[35] หลังจากนั้นได้มีข่าวว่าเธออาจมีความสัมพันธ์กับวิน ดีเซล ที่เป็นพระเอกคู่กับเธอในหนังเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก[36] และโอลิเวียร์ มาร์ติเนซ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับเธอในหนังเรื่อง ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก[37][38] ในเดือนกรกฎาคม 2006, ราดรีเกซได้บอกกับนิตยสาร คอสมอโพลิแทน ว่าเธอไม่ใช่เลสเบียน แต่ว่า"เธอได้เคยมีประสบการณ์กับทั้งสองเพศ" [39] ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006, เธอได้ถูกเปิดเผยว่าเธอเป็นไบเซ็กชวล กับตอนที่เธอแสดงภาพยนตร์เรื่อง ผ่าภิภพแวมไพร์ ที่ได้ร่วมงานกับนักแสดง คริสแตนนา โลเคน ได้สร้างความคิดเห็นหลายความเห็นผู้ที่ให้การสนับสนุน มีการตีความกันอย่างกว้างขวางจากสื่อถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากคนทั้งคู่[40] ในเดือนมิถุนายน ปี 2007 นิตยสารเลสเบี้ยนที่ชื่อว่าเคิร์ฟ ได้นำเสนอเรื่องราวอ้างว่าราดรีเกซนั้นเป็นไบเซ็กชวล[41] ราดรีเกซได้วิพากษ์วิจารณ์นิตยสารเล่มนี้ว่า"เอาคำพูดยัดใส่ปากของเธอ".[42] เธอก็ได้บอกอีกครั้งว่าเธอไม่ใช่เลสเบียนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 จากการที่เธอให้สัมภาษณ์กับหนังสือนิตยสารสำหรับผู้หญิงที่ชื่อว่า Cayena ซึ่งเป็นนิตยสารของสาธารณรัฐโดมินิกัน[43] ในเดือนตุลาคม 2013, หนังสือเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ได้ยกคำพูดของเธอที่ว่า "ฉันได้ทั้งสองอย่าง ฉันทำในสิ่งที่ฉันชอบ ฉันแปลกมากที่มานั่งอยู่ตรงนี้และฉันไม่พยายามทนในเมื่อฉันสามารถทำได้ ผู้ชายก็มีอะไรที่น่าทึ่ง เหมือนดังลูกไก่"[4] แล้วเธอก็ได้อธิบายคำพูดของเธอกับนิตยสารที่มีชื่อว่าLatina ว่า "ฉันว่ามันเก่าแล้ว. ในที่สุดมันก็จะทำเกิดความยุ่งยากจนฉันไม่อยากจะกลับไปทำอีก. ฉันอยากจะซื่อสัตย์และมองดูสิ่งที่กำลังจะเกิด."[44] ในเดือนพฤษภาคม ปี 2014, เธอกล่าวว่าการที่เธอให้สัมภาษณ์เธอหวังว่าการกระทำของเธอจะสามารถช่วยคนอื่นๆ ที่เจอในสถานการณ์ที่คล้ายกัน "โดยอาจจะเปิดปากใหญ่โตที่เต็มได้ด้วยไขมันของฉัน เหมือนกับจะทำให้ก้าวผ่านขึ้นไปอีกขั้นโดยที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครบางคนที่เป็นคล้ายๆกัน"[45] เธอได้ให้คำอธิบายหลังจากการให้สัมภาษณ์อีกครั้งนั้นหลังจากนั้นว่าตัวเธอเองเป็นไบเซ็กชวล: "ไบ , ใช่ ฉันตกอยู่ในแบบ B-ของ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ(กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ)" ราดรีเกซขาดความแปลกใหม่ในบทนักแสดงหญิงที่มีอยู่ในบทภาพยนตร์ เธอกล่าวว่า "มีอะไรที่ผิดปกติกับการเป็นไบเซ็กชวลเหรอ? ฉันหมายถึง,พวกเราต่อต้านสิ่งที่จะมารบกวนในที่ที่เราจะไป"[46] ประเด็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายในเดือนมีนาคม ปี 2002, ราดรีเกซได้ถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายหลังจากที่ต่อสู้ตบตีกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ[47] ค่าปรับได้ถูกหยุดไว้เนื่องจากเพื่อนร่วมห้องของเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาในชั้นศาล.[48] ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2003, ราดรีเกซขึ้นศาลเพื่อเผชิญหากับข้อกล่าวหาทางอาญา(misdemeanor) 8 ข้อ และถูกจ่ายค่าปรับกับ 2 เหตุการณ์ซึ่งรวมไปถึงกรณีขับรถชนแล้วหนีและชกต่อย.[49] ในเดือนมิถุนายน ปี 2004 , โรดิเกซสารภาพไม่ขอสู้คดี ในลอสแอนเจลิสที่ถูกจับกุมใน 3 ข้อหาชนแล้วหนี และขับรถโดยที่ใบอนุญาตในการขับขี่ถูกระงับ.[50] เธอถูกจำคุก 48 ชั่วโมง, ต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมที่ห้องเก็บศพในโรงพยาบาลนิวยอร์ก, เข้าโครงการบำบัดแอลกอฮอล์ 3 เดือน, และได้รับการรอลงอาญา เป็นเวลา 3 ปี [51] ในปี 2005 ขณะที่หนังเรื่อง อสุรกายดงดิบ ใน รัฐฮาวาย ราดรีเกซถูกจับกุมจากตำรวจโฮโนลูลู หลายครั้ง เธอถูกกล่าวหาเรื่องการขับรถในเขตเกาะโอวาฮู ในวันที่ 1 พฤศจิกายนและถูกปรับเป็นเงิน 357 ดอลลาร์สหรัฐ เธอต้องจ่าย 300 ดอลลาร์สหรัฐในเรื่องการขับในวันที่ 20 ตุลาคมและถูกปรับ 197 เหรียญในวันที่ 24 เดือนสิงหาคม[52] ในวันที่ 1 ธันวาคม ปี 2005 ราดรีเกซถูกจับกุมจากการขับรถ[53] โรดิเกซได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเธอไม่ยอมรับความผิดเมื่อถูกฟ้องร้อง[54] แต่ในวันของการพิจารณาคดีของเธอในเดือนเมษายน ค.ศ. 2006, เธอกลับรับสารภาพและยินดีที่จะจ่ายค่าปรับ เธอเลือกที่จะเป็นจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐและถูกคุมขังเป็นเวลา 5 วันแทนที่จะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชน 240 ชั่วโมง[50] เธอได้อ้างว่าปริมาณสารสเตียรอยด์ที่เธอได้รับในปริมาณที่สูงจากการเบาเทาอาการแพ้มีผลกับพฤติกรรมของเธอ[55] เพราะอุบัติเหตุที่ไกลลัว (Kailua) มันอยู่ในช่วงการคุมความประพฤติของเธอที่ลอสแอนเจลิส เธอถูกตัดสินจำคุกถึง 60 วันในคุก และถูกคุมความประพฤติโครงการการฟื้นฟูเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอร์และอีก 30 ในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อชุมชน, รวมถึงงานรณรงค์ต่อต้านแม่เมาแล้วขับ โดยผู้พิพากษาลอสแอนเจลิสในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2006[56] เพราะความอึดอัด เธอได้รับการปล่อยตัวจากคุกเพียงหลังจากที่เธอเดินเขาไปในคุกในวันเดียวกัน เธอนำประสบการณ์เข้าไปเขียนในบล็อกของเธอ[57] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 ราดรีเกซได้ถูกกล่าวหาว่าละเมิดการถูกคุมความประพฤติโดยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชนไม่เสร็จสิ้นและไม่ปฏิบัติตามโปรแกรมบำบัดแฮกอลฮอร์ มีรายงานว่าเธอส่งเอกสารเดิมที่ระบุว่าเธอทำงานบำเพ็ญประโยชน์ในวันที่ 5 เดือนกันยายนในปี 2006, แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเธอทำจริงที่เมืองนิวยอร์กในวันนั้น. ทนายความของเธออ้างว่าเป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายธุรการ[58] ในวันที่ 10 เดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 เธอถูกตัดสินให้จำคุก 180 วันหลังจากที่เธอละเมิดการคุมความประพฤติของเธอ เธอคาดว่าเวลาในคุก 180 วันเต็มในคุกนั้นไม่เหมาะสมเนื่องจากเธอต้องพักงานเธอและถูกกักบริเวณในบ้าน.[59] อย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้าไปในคุกที่เป็นสถานกักกันที่ตั้งอยู่ในเขตลินวูดส์ ในวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2007 เธอได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกคุมขังได้ 18 วัน ในวันที่ 9 เดือนมกราคม ค.ศ. 2008 เนื่องจากความแออัดในคุก[60] ผลงานด้านการแสดงภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ มิเชลล์ ราดรีเกซ วิกิคำคมมีคำคมเกี่ยวกับ มิเชลล์ ราดรีเกซ
แม่แบบ:ScreenActorsGuildAwards EnsembleTVDrama 2000–2009
|