พัชริดา วัฒนา
พัชริดา วัฒนา (ชื่อเล่น แหม่ม) เกิดวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ที่จังหวัดพระนคร เป็นนักร้องชาวไทย มีผลงานร่วมกับวงสาว สาว สาว และผลงานศิลปินเดี่ยว เป็นครูสอนร้องเพลง เป็นอดีตผู้บริหารฝ่ายพัฒนาศิลปินบริษัทอาร์เอส เป็นบุตรสาวของนักร้องอาชีพสุดา ชื่นบาน [2][3]และยังมีน้องสาวต่างบิดาซึ่งก็เป็นนักร้องเช่นกันคือ โมเม - นภัสสร บุรณศิริ [3] ประวัติแหม่มศึกษาที่โรงเรียนสตรีวรนาถบางเขน ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม ป.1 - ป.4[4] ต่อมาย้ายไปศึกษาที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (สายศิลป์-ฝรั่งเศส) ตั้งแต่ระดับประถม 5 ถึง มัธยม 6 [3]ต่อมาศึกษาระดับอุดมศึกษา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สาขาวิชาภาษาอังกฤษ และเข้าศึกษาต่อในระดับมหาบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิชาวิทยุ-โทรทัศน์ สำเร็จการศึกษาในปี 2535[5] เธอเป็นสมาชิกวง สาว สาว สาว ร่วมกับสมาชิกหญิงอีกสองคนคือ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร (แอม) และอรวรรณ เย็นพูนสุข (ปุ้ม) เธอมีผลงานกับวงสาว สาว สาว ค่าย รถไฟดนตรี [4] ในปี 2524 ถูกเรียกว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแรกของไทย[6][7] ในช่วงเวลา 9 ปี มีผลงานเพลง 10 อัลบั้ม และประสบความสำเร็จอย่างมาก ก่อนจะประกาศยุบวง ในปี 2533 จากนั้นแหม่ม พัชริดา ได้เป็นนักร้องอิสระ รับงานร้องคอรัส และร้องเพลงประกอบละคร มีเพลงแรกคือ "ริษยา" ประกอบละคร ริษยา (2534) ซึ่งได้รับรางวัลเพลงนำละครยอดเยี่ยมรางวัลโทรทัศน์ทองคำ และร้องเพลงประกอบละคร กระถินริมรั้ว ซึ่งสร้างสรรค์โดย อาร์เอส หลังจากนั้นจึงได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปิน เป็นนักร้องหญิงคนแรกของค่ายอาร์เอส โปรโมชั่น 1992[4] [8] ออกอัลบัมแรก ผู้หญิงมีฝัน ในปี 2536 ซึ่งเป็นการนำเพลงของศิลปินผู้ชายมาร้องใหม่ มีเพลงฮิตคือ ทิ้ง ซึ่งต้นฉบับเป็นของวง Outsider ต่อมา ต่อมาได้มีอัลบั้มที่เป็นเพลงใหม่หมดในชุด หัวใจร้องเพลง มีเพลงฮิตคือ รักไม่มีวันตาย ในช่วงการเป็นศิลปินเดี่ยวนับว่าเป็นนักร้องที่ร้องเพลงประกอบละครโทรทัศน์มากมาย มีเพลงที่เป็นที่รู้จักคือ ญาติกา ประกอบละครเรื่อง ญาติกา และ ด้วยแรงอธิษฐาน ประกอบละครด้วยแรงอธิษฐาน เป็นต้น แหม่ม พัชริดายังคอรัสให้ศิลปินร่วมค่าย และได้ควบตำแหน่งสอนร้องเพลงขั้นพื้นฐานและพัฒนาศิลปินของอาร์เอสไปด้วย นอกจากนี้โมเม นภัสสร น้องสาวก็ได้มาเป็นศิลปินของอาร์เอสเช่นกัน[8] แหม่ม พัชริดา มีผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยวกับอาร์เอส 10 อัลบัม[9] อัลบัมสุดท้ายคือ Reason of Love ซึ่งมีเพลงโปรโมทแรกคือ ผู้หญิงวนซ้าย ผู้ชายวนขวา ซึ่งได้รางวัลรางวัลประเภทเพลงและมิวสิกวิดีโอดีเด่น รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 22 ปี 2550 รวมถึงมีผลงานเพลงในอัลบัมพิเศษ เช่น เพลง อย่าคิดว่าเธอไม่มีใคร ที่ร้องร่วมกับโมเม น้องสาว และเพลง รักที่จะรัก ที่เป็นการกลับมามีผลงานเพลงร่วมกับ ปุ้ม อรวรรณ สาว สาว สาว ร่วมถึงแหม่มยังได้ร่วมเขียนเนื้อร้องในเพลงนี้ด้วย[10] รวมถึงทำงานเบื้องหลังในฐานะครูสอนร้องเพลงของศิลปินมากมาย ตั้งแต่ยุค Generation Next อาทิ แร็พเตอร์ เจอาร์-วอย โดม ลิฟท์-ออย[11] ดัง พันกร[12] จากนั้นได้ดูแลฝ่ายพัฒนาศิลปิน เป็นครูนักปั้น[9] ที่ปั้นศิลปินอย่าง ดีทูบี[9] บี-มิกซ์[13] โฟร์-มด ศิลปินในยุค กามิกาเซ่ ได้แก่ หวาย เฟย์ ฟาง แก้ว รวมถึงศิลปินลูกทุ่งอย่าง ใบเตย อาร์สยาม และศิลปินอีกมากมาย ในการทำงานมีตำแหน่งสูงสุดเป็นเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสฝ่ายพัฒนาศิลปิน บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน)[14] และยังแหม่ม พัชริดา ก็ได้ร่วมก่อตั้งโครงการ RSATP หรือ RS Artist Training Program ซึ่งเป็นโครงการปลุกปั้นศิลปินหน้าใหม่ของบริษัท RS ถึงจัดขึ้นถึง 7 รุ่น[3][9] แหม่ม พัชริดา วัฒนา ได้ลาออกจากค่ายอาร์เอสเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2561 หลังจากร่วมงานกับค่ายอาร์เอสมาเกือบ 30 ปี ในปี 2561 แหม่ม พัชริดาได้กลับมารวมตัวกับสมาชิกวง สาว สาว สาว เพื่อแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของ สาว สาว สาว อีกครั้ง[15][6] ส่วนในด้านธุรกิจ มี Chasse’ Dance Studio เป็นสตูดิโอเปิดสอน การเต้น การขับร้อง การแสดง ร่วมกับโมเม[14] และเคยเปิดร้านกาแฟ Pat's Tea Room & Coffee Club เป็นโค้ชรายการประกวดร้องเพลง เดอะวอยซ์ คิดส์ ทางช่อง PPTV[11][16][9] และปัจจุบัน กรรมการรายการ เพลงเอก ทางช่องเวิร์คพอยท์[3] ผลงานในนามสาว สาว สาว
ผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุด ผู้หญิงมีฝัน (2536)
ชุด หัวใจร้องเพลง (2537)
ชุด รวมบทเพลงแทนใจ (2538) (อัลบั้มรวมฮิต)
ชุด แทนความรู้สึกดี ๆ (2539)
ชุด Color of Love สีสันของความรัก (2541)
ชุด Love Book (2543)
ชุด Beloved (2544)
ชุด คนของความเหงา (2546)
ชุด เพลงรักในสายลม 1 (2547)
ชุด เพลงรักในสายลม 2 (2547)
ชุด Reason of Love (2550)
ผลงานอื่น ๆ ในฐานะศิลปินเดี่ยว
เพลงประกอบละครและภาพยนตร์
ผลงานแต่งเพลง
คอนเสิร์ต
รายการโทรทัศน์
ละครโทรทัศน์
พรีเซนเตอร์โฆษณา
อื่นๆ
อ้างอิง
|